ล่อสองสาวน้อยในคืนฝนตก

เรื่องเสียว ล่อสองสาวน้อยในคืนฝนตก

สองสาวที่เต้นอยู่ข้างหน้าเขาคงมีอายุราวๆ 18-19 ปีเท่านั้น เธอมากัน 2 คนและเปิดเหล้านอกราคาแพงเสียด้วย ทั้งๆ ที่ดูๆ ยังเหมือนเด็กนักเรียนที่ยังไม่มีรายได้
แต่ก็อาจจะเป็นลูกคนรวย เพราะดูจากเสื้อผ้าที่ดูดีมีรสนิยมและทันสมัย
ที่สำคัญคือสาวน้อยคนผมหยิกสั้นนั้นชอบหันมาส่งยิ้มหวานให้เขาบ่อยๆ ตั้งแต่แรกที่เขาเข้ามานั่งข้างเธอบนเก้าอี้สูงหน้าเคาน์เตอร์ของผับแห่งนี้แล้ว
จนดึกดื่นเที่ยงคืน เหล้าพร่องไปค่อนขวด เขาสังเกตดูอย่างค่อนข้างแปลกใจที่สองสาววัยกระเตาะกินเหล้ากันยังกะกินน้ำหวาน แล้วก็ช่างมีเรี่ยวแรงมากมายเหลือเกิน เพราะเมื่อดีเจเปิดเพลงจังหวะเร็วๆ เธอสองคนก็จะลุกขึ้นเต้นอย่างไม่มีเหนื่อยเลย และท่าเต้นของเธอก็มองแล้วใจไหววูบได้ง่ายๆ เพราะเธอทั้งโยกทั้งส่ายสะโพกกระเด้งหน้ากระเด้งหลังบ้าง ร่อนวนไปมาบ้าง ชายหนุ่มวัยเบญจเพสอย่างเขาก็ยังไฟแรงจัดพอที่จะเห็นแล้วอยากจับเธอมาเล่นมวยปล้ำแบบเสื้อผ้าไม่เกี่ยวจริงๆ
เมื่อผับเปิดเพลงช้า เธอก็ชวนกันกลับมานั่ง แล้วเธอก็เริ่มทอดสะพานให้เขาด้วยการขอบุหรี่จากเขา
เขาส่งบุหรี่แสตมป์นอกให้พร้อมกับจุดไฟให้ เธอพ่นควันพรูแล้วก็ชวนคุย
“ดึกแล้วเพื่อนคงไม่มาแล้วมั้ง อืมม์…หรือว่าพี่รอแฟน”
“เปล่า พี่ไม่ได้รอใคร แวะเข้ามาหลบฝนเท่านั้น”
เขาตอบตามความจริง เพราะเมื่อช่วงย่ำค่ำฝนพรำลงมาไม่ขาดสาย ถนนทุกสายก็เต็มไปด้วยรถราติดยาวแทบขยับไม่ได้เลย เขาจึงตัดสินใจเลี้ยวเข้ามาในซอยนี้ และแวะนั่งดื่มเบียร์เย็นๆ ให้เพลินใจ ในยามปกติแล้วเขาจะเที่ยวเฉพาะคืนวันเสาร์หรือวันที่เพื่อนฝูงชักชวนเฮกันไปเท่านั้น
“แหม หลบฝนเนี่ยนะ ตั้งแต่ยังไม่สองทุ่มจนเที่ยงคืน”
เธอแซวแล้วค้อนควักก่อนจะสูบบุหรี่อีกครั้ง เขานึกสนุกจึงก้าวข้ามสะพานนั้น
“ก็พอดีนั่งดูน้องเพลินไปหน่อย”
คำพูดที่ทำให้เธอหัวเราะชอบอกชอบใจ เรียกเพื่อนที่ร้องเพลงตามเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มให้หันมาคุยกับเขาด้วย
“พี่ชื่ออะไรเหรอ เค้าชื่อก้อยนะ เพื่อนชื่อเหมียว”
“เรียกพี่ว่าแบงค์ก็ได้”
สองสาวน้อยถามถึงอาชีพการงานของเขา ชวนคุยสนุกสนานไปถึงเรื่องผับดังที่อื่นๆ คุยเรื่องเพลง เรึ่องหนังและเขาก็ได้รู้ว่าเธอยังเรียนกันอยู่ โดยเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ด้วยกัน บ้านของเธออยู่จังหวัดใกล้ๆ กับกรุงเทพฯนี่เอง
แต่พวกเธอก็สารภาพว่าไม่ค่อยได้ไปเรียนกันหรอก เพราะติดเที่ยว ปกติเธอจะมาที่ผับนี้กันประจำมากันกลุ่มใหญ่เสมอ เพิ่งมีวันนี้ที่มากันแค่สองคน
แบงค์ติดใจในความเป็นกันเองของสองสาวน้อย คุยสนุก ช่างแหย่เย้า และหน้าตาของเธอก็น่ารักน่าเอ็นดูไม่น้อย อีกคนที่ชื่อเหมียวถึงจะดูเมามายมากจนคุยน้อย เอาแต่โยกเย้าส่ายตัวลูกเดียว แต่ก็หน้าตาสะสวยตาหวานเยิ้มเหมือนคนเมากัญชา เรียกว่าน่าสนใจทั้งคู่
“พี่แบงค์ ฝนยังตกอยู่เลย เนี่ย…ตกหนักด้วย”
สาวก้อยคนคุยเก่งออกไปนอกผับแล้วกลับมาบอกเขา ทำท่าวิตกกังวลแล้วก็คุยกับเพื่อนเรื่องฝนตกกับความไม่สะดวกต่างๆ นานา
“พี่ไปส่งเองก็ได้ ไว้ใจรึเปล่าล่ะ”
แบงค์อาสาอย่างเต็มใจ ตั้งใจจะผูกมิตรเอาไว้เผื่อฟลุคในวันหน้า สองสาวหันไปปรึกษากันแล้วก็ตอบตกลงง่ายๆ อย่างไม่มีปัญหา
…………………………………………………………………………………………………
แบงค์ขับรถได้ไม่เร็วนักเพราะถนนลื่น และฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
สาวก้อยชวนเขาไปกินเหล้าต่อที่ห้องเธอ มือนุ่มๆ วางแปะลงที่หน้าขาของเขา แบงค์จึงตอบตกลงอย่างลำพองใจ นึกว่าคงได้ฟลุคเจอส้มหล่นคืนนี้เลยล่ะมั้ง
“พี่แบงค์ พี่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นรึเปล่าเนี่ย”
สาวเหมียวคนตาหวานที่นั่งอยู่เบาะหลังชะโงกหน้ามาถามด้วยเสียงอ้อแอ้
“เปล่าฮะ ทำไมเหรอ”
“ก็หน้าพี่เหมือนนี่”
“ไม่ใช่ฮะ ไม่มีครึ่งไม่มีเสี้ยวเลย เหมียวชอบญี่ปุ่นรึไง”
“เปล่า อยากลองได้ข่าวว่าหนุ่มญี่ปุ่นมันเอาเก่ง”
การพูดจาของเด็กสาวทำให้ชายหนุ่มสะดุ้ง แต่ก็ทำให้เขากล้าท้าทาย
“คนไทยนี่แหละเก่ง จะลองมั้ยล่ะ”
สองสาวหัวเราะกันคิกคักสนุกสนาน พอไปถึงห้องพักของเธอเขาก็ได้เห็นว่าเธอยังเรียนกันอยู่จริงๆ เพราะเห็นหนังสือเรียนของวิทยาลัยชื่อดังอยู่ที่ชั้นหนังสือ แบงค์สลดใจเล็กน้อยที่ได้รู้ว่าเด็กวัยรุ่นไทยใช้ชีวิตกันเหลวแหลกอย่างนี้ คิดถึงอกพ่อแม่ที่ส่งเงินให้ลูกเดือนละหลายตังค์แล้วก็ยิ่งหดหู่นัก
แต่คิดได้ไม่นานก็ต้องเลิกคิด เพราะสาวเหมียวและสาวก้อยมาชวนเขาดื่มกินและพูดคุยสนุกสนาน
“ฝนตกอย่างนี้บรรยากาศน่านอนนะ” แบงค์เอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องครืนครืนอยู่ข้างนอก
“ใครเค้าจะนอนกันพี่ เค้าต้องทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันก่อน”
เหมียวพูดแล้วหัวเราะเสียงใส
“น้องเหมียวนี่เมาแล้วน่ารักนะ จะเอาลูกเดียวเลย” แบงค์เริ่มแย็บ
“มันชอบ…ก้อยต้องทำให้มันบ่อยๆ” ก้อยพูดแล้วกินเหล้าทีเดียวค่อนแก้ว
“จริงเหรอ!?” แบงค์ตกใจไม่น้อย แต่ก็ยังลองแย็บดูเชิง “งั้นทำให้ดูหน่อยซี่”
“อย่าท้านะ ดูแล้วจะอดใจไม่ไหว”
ก้อยพูดแล้วก็หัวเราะระริกระรี้ จูงมือเหมียวซึ่งเมาจนเดินแทบไม่ไหวไปที่เตียงแล้วปิดไฟในห้องเหลือแค่โคมไฟเหนือหัวเตียงสีสลัวๆ
ก้อยบรรจงจูบเหมียวที่นอนหลับตามึนเมา ปากบางๆ เหมือนกระจับของสองสาวประกบกันแนบแน่น มือเรียวๆ ของก้อยถอดเสื้อของเหมียวถอดเสื้อของเหมียวออก เหลือแต่เสื้อชั้นในตัวน้อย เธอวาดมือลงมาข้างล่างอย่างคุ้นเคย ทั้งๆ ที่กำลังจูบปากเพื่อนอย่างอ้อยอิ่ง มือตะโบมโลมลูบโหนกเนื้อของเพื่อนสาวแล้วถอดกางเกงเหมียวออก
ร่างเพรียวขาวโพลนอยู่ตรงหน้า แบงค์นั่งตัวแข็ง มือถือแก้วเหล้าค้าง
ก้อยลุกนั่งหันมาที่เขา ตาเยิ้มหวานด้วยเมาเหล้าหรือเมาอารมณ์ก็ไม่รู้ เธอถอดเสื้อออกต่อหน้าต่อตาเขา และเมื่อยกทรงถูกเหวี่ยงทิ้งไป เต้าเต่งอวบอิ่มขาวนวล กลางเต้าเป็นวงป้านใหญ่สีน้ำตาลอ่อน
แบงค์กลืนน้ำลาย อกของเธอยั่วกิเลสจริงๆ เพราะไม่ได้กลมกลึงเป็นลูกโป่ง แต่งอนและพุ่งชันออกมายั่วยวนท้าทาย
เธอถอดกระโปรงสั้นทิ้งไป เหลือเพียงกางเกงในที่ขอบกางเกงประทับยี่ห้อดังไว้ แล้วเธอยิ้มยั่วยวนก่อนจะเอนตัวลงนอนเคียงข้าง โดยตะแคงเข้าหาเพื่อน จูบไซ้ซอกคอพลางมือก็วางแปะบนอกแล้วเคลื่อนมือวนส่ายเป็นวงกลม ขาเรียวขาวก็ยกขึ้นแนบขาเพื่อนแล้วไล้โลมไปมา
เป็นภาพที่ทำให้ชายหนุ่มแทบคลั่ง เขาเคยเห็นสาวเบี้ยนกันก็แค่ในหนังโป๊เท่านั้น เมื่อมาเจอภาพสดๆ เบื้องหน้าอย่างนี้ทำให้เขาหัวใจเต้นแรงแทบระเบิดออกมานอกอก
เขารู้สึกตัวว่าเป้ากางเกงคับตึง มีบางอย่างมันตื่นตัวลุกชัน เขาเริ่มขยับตัวแล้วจัดการปอกเปลือกตัวเองจนเกือบล่อนจ้อน เหลือเพียงกางเกงในสีขาวสะอาดที่บรรจุของขนาดเขื่องไว้ข้างใน เดินตรงไปที่เตียงอย่างเนื้อตัวร้อนวูบวาบ
เขาตรงเข้านอนทอดตัวเข้าข้างหลังก้อยที่นอนตะแคงซุกไซ้เพื่อนผู้นอนหลับตาครางฮือฮาอยู่เบาๆ
ก้อยปล่อยให้เขาลูบคลำเอวคอดลงไปที่สะโพกโค้งเว้าและช่วงขานุ่มมือ เขาบีบบั้นท้ายเธอด้วยแท่งแกร่งของจ้าวโลก
คราวนี้ก้อยผละจากเพื่อนเธอแล้วหันมาแนบตัวประกบเขา เธอเผยอปากมาจูบเขาก่อนแล้วชอนลิ้นเข้าไปกระหวัดพันอย่างช่ำชอง เขาจูบเธอตอบอย่างไม่ยอมแพ้ มือก็เริ่มขยำหน้าอกสวยของเธอขณะที่เธอก็ถอดกางเกงปราการด่านสุดท้ายของเขาแล้วกำจ้าวโลกของเขาไว้แนบแน่น จนเขาต้องผละจากปากเธอด้วยอาการผวาเฮือก
เขาซุกไซ้ซอกคอและขยับต่ำลงดอมดมอกสวยขนาดไม่ใหญ่นักของเธอ ปากประกบยอดอดแข็งเป็นไตแล้วดุนดันด้วยปลายลิ้น มืออีกข้างตะปบเข้าที่เนินเนื้อชิ้นอ่อนแล้วคลึงคลำก่อนจะถอดรูดมันออก
เมื่อมือได้สัมผัสกับใยไหมบางๆ และความฉ่ำชุ่มในร่องใยไหนนั้น เขาก็รู้สึกว่าเมฆดำมันลอยครืนเต็มอยู่ในอารมณ์ เนื้อตัววูบวาบไปด้วยไฟราคะ เขาจับเธอนอนหงายแล้วขยับตัวขึ้นนอนทาบทับ ยันข้อศอกไว้บนที่นอน แล้วก็ง้างขาเธอออก
เธอแยกขาเปิดทางสะดวกให้ มือยังกำแก่นกายของเขาพลางรูดเล่น เขาดึงมันออกจากมือเธอแล้วจับมันจ่อเข้าที่ ดันมันเข้าไปจนสุดกำลัง เธอแอ่นตัวผวาแล้วร้องคราง เกี่ยวสองขารัดเขาแน่น
ยังไม่ทันที่แบงค์จะขยับสะโพก ก้อยก็ส่ายบั้นท้ายวนเวียนร่อนไปอย่างเมามัน จนเขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากซ่านสยิวแทบทะลัก สะโพกเธอโบยบินลอยขึ้นเหนือที่นอน
เขาดันบั้นท้ายอัดกระแทกเธอแรงๆ จนเธอต้องหยุดร่อนบินแล้วร้องโอดโอยเมื่อถูกเขาอัดอย่างถี่ยิบจนเหมียวลืมตาหวานเยิ้มขึ้นมาดู
แม้จะเมามายไม่ได้สติ เธอยังเอื้อมมือมาลูบไล้เต้านมของก้อย
ก้อยนอนกระเพื่อมไปทั้งตัวเพราะแรงอัดกระแทกเป็นจังหวะ แต่มือก็ยังอุตส่าห์เอื้อมไปบีบเคล้นโหนกเนื้อของเพื่อน
แบงค์อัดกระแทกไปพลางอีกมือข้างหนึ่งก็เอื้อมไปถอดกางเกงของสาวน้อยอีกคน
เมื่อกางเกงหลุดจากร่าง เขาก็เสียววาบที่ท้องน้อยทันทีที่เห็นของลับของเหมียวคนสวย
เนินเนื้อของเธอโหนกนูนอูมอิ่มและรกใยไหมทั้งๆ ที่ดูเนื้อตัวเนียนขาว
เขาอดใจไม่ไหว รีบเอื้อมมือไปบีบขยำขยี้โหนกเนื้อนั่นอย่างซ่านอารมณ์
เธอร้องครางแล้วหลับตา ก้อยก็ถอดยกทรงลายน่ารักของเหมียวออก หน้าอกเธอเล็กเป็นกระเปาะไม่ใหญ่โตเหมือนช่วงล่าง เธอนอนส่ายหน้าเผยอปากครวญครางเมื่อถูกแทรกนิ้วไปในหลืบลึก
แบงค์กัดฟันไม่ให้อารมณ์แตกทะลัก เขาถอนแก่นกายจากก้อยแล้วขยับไปคร่อมบนอกเหมียวที่หลับตาเผยอปากอยู่ เขาป้อนแก่นกายเปียกเยิ้มเข้าไปในปากเธอทีละนิด เธออ้ารับแล้วดูดดุนอย่างเต็มปากทั้งที่ยังหลับตา ก้อยขยับตัวไปทางด้านล่าง ฝังหน้าลงไปที่โหนกเนื้อของเพื่อน แต่ทอดตัวเหยียดขามาทางหัวของปลา
แบงค์เอื้อมมืออีกข้างมาคลำสะโพกนุ่นของก้อย สอดนิ้วกลางเข้าไปในเนินเนื้อแล้วเขี่ยติ่งสวาทที่เปียกจนเยิ้มขณะที่แอ่นกายให้เหมียวดูดรูดแล้วก็เสียวกระสันยิ่งนัก
เมื่อซ่านเสียวจนใกล้ไคลแม๊กซ์ แบงค์ตัดใจดึงแก่นกายออกจากปากเธอ แล้วขยับมาทางช่วงล่าง
ก้อยถอยออกให้ เปิดโอกาสให้เขาเสียดแทรกแก่นกายเข้าไปในถ้ำลึกลับใต้โหนกเนื้อของเหมียว
เขากระแทกกระทุ้งอย่างรุนแรง ขณะที่ก้อยไปนั่งคร่อมตรงหน้าเพื่อนแล้วหย่อนเนินเนื้อให้เพื่อนใช้ลิ้นละเลงให้
แบงค์ขยับตัวเป็นจังหวะเร็วขึ้น เพิ่มความหนักหน่วงเหมือนจะให้โหนกเนื้อของเธอแตกสลาย แล้วเขาก็ชะลอจังหวะช้าลง ถอยมันออกอีกครั้ง
เขาจับก้อยให้หันมาหา ฝังหน้าซุกไซ้อกเธอแล้วจับเธอมานั่งบนตัก เขาหงายตัวไปข้างหลังเล็กน้อยแล้วยันมือไว้บนที่นอน
ก้อยนั่งสวมลงในแก่นจ้าวโลกของเขาแล้วก็ขย่มอย่างไม่เกรงใจ เต้างอนงามดีดขึ้นลงตามจังหวะขย่ม
เธอร้องสูดปากแล้วกระแทกเร็วขึ้นจนเขาต้องดึงสะโพกเธอออก แล้วก็หลั่งน้ำกามพุ่งกระฉูดนอกตัวเธอ
เขานอนเอนหลังไปบนเตียงมองดูสองสาวเปลือยที่นอนเมามาย หายใจสะท้อนอยู่บนเตียงด้วยกัน แล้วก็มิอาจยอมหลับใหลด้วยความเหนื่อย
แม้ก้อยกับเหมียวจะหลับใหลเมามาย แต่แบงค์ไม่ยอมหลับด้วย
คืนนั้นฝนยังตกเจิ่งนองบนเนินเนื้อชิ้นนุ่มของสองสาวอีกหลายต่อหลายครั้ง
จนกระทุ่งรุ่งสาง แบงค์เดินโซเซออกจากห้องเพราะต้องกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงาน
……………………………………………………………………………………………………..
2-3 คืนต่อมาเขาพาเพื่อนฝูงไปนั่งที่ยังนี้หวังจะเจอทีเด็ดอีก แต่คืนนี้ฝนไม่ได้ตกเหมือนคืนนั้น
เมื่อมองหาก้อยกับเหมียวไม่เจอ แบงค์กระซิบถามบ๋อย
“อ๋อ พวกไก่….เหรอครับพี่” คำหลังของไก่นั้น บ๋อยพูดชื่อผับนี้ต่อท้าย “ไม่เห็นมาหลายวันแล้วพี่ ช่วงนี้ปลายเดือนคงกลับไปเอาเงินที่บ้านกันมั้งครับ”
“แล้วทำไมไปเรียกพวกเค้าอย่างนั้น” แบงค์ถามอย่างข้องใจ
“ก็…ใครๆ ก็เรียกงึ้ทั้งนั้นแหละพี่ กลุ่มนี้มั่วทั้งกลุ่ม พวกบ๋อยที่นี่ได้ฟันพวกนี้กันหมดแล้วล่ะครับ บางวันก็ถูกแขกคนอื่นๆ หิ้วไปฟันลุ่มนี้ชอบคนหล่อพี่ ถ้าหล่อก็ไปฟรี ถ้าไม่หล่อก็ขอเงินด้วย ถ้าพี่สนใจก็มาอีกสิ รับรองได้แน่”
บ๋อยกระซิบแล้วหัวเราะชอบใจเพราะจำเขาไม่ได้ เพื่อนๆ แบงค์ฟังแล้วตื่นเต้นสนอกสนใจ
แต่แบงค์เริ่มเสียความรู้สึก เพราะนึกว่าฟลุคได้ส้มหล่นสองใบ แต่ที่แท้เธอเป็นของฟลุคของทุกคนที่นี่มากี่คนแล้วก็ไม่รู้แบงค์ยิ่งหวั่นใจเมื่อหวนคิดถึงวันนั้น บนเตียงที่แสนหฤหรรษ์
……….
……….