ยอมเสียตัวเพื่อช่วยชายที่รัก

เรื่องเสียว ยอมเสียตัวเพื่อช่วยชายที่รัก

เรื่องที่แหม่มจะเล่าต่อไปนี้มันไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้กับชีวิตของ แหม่ม มันเจ็บปวดและน่าอดสูใจยิ่งนักเมื่อย้อนคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา แหม่มแต่งงานอยู่กินกับสามีมาได้สามปีแล้ว สามีของแหม่มชื่อ ‘วัฒ’ เป็นนักธุรกิจ รูปหล่อ ฉลาด และเอาใจเก่ง สมัยเรียนผู้หญิงแอบปิ๊งเขากันเป็นแถว แต่สุดท้ายเขาก็เลือกแหม่ม งานแต่งงานของเราหรูหราเป็นที่อิจฉาของใครต่อใคร หลายคนชมว่าเราเหมาะสมกัน เจ้าบ่าวก็หล่อ เจ้าสาวก็สวย หลังแต่งงานแหม่มก็ย้ายเข้ามาอยู่กับวัฒในบ้านหลังใหญ่ มีสระว่ายน้ำ มีคนสวน และคนใช้เพียบพร้อม วัฒรักและเอาใจแหม่มมาก ฟังดูน่าอิจฉามั๊ยคะ วัฒ บอกกับแหม่มเสมอว่าเขามีความสุขมากที่ได้แหม่มเป็นภรรยา และเพื่อนๆ ทุกคนก็อิจฉาเขาที่ได้แฟนสวย แหม่มอยากจะบอกว่านั่นเป็นสามปีในชีวิตที่แหม่มมีความสุขมากที่สุดจนรู้สึก ว่าโลกนี้เป็นของดิแหม่ม จนกระทั่งวัฒได้ไปรู้จักกับเพื่อนที่ชื่อ ‘เสี่ยหาญ’ และเขาเป็นต้นเหตุของวิบากกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา

หลัง จากที่วัฒได้รู้จักกับเสี่ยหาญเขาก็เริ่มห่างเหินจากแหม่มมากขึ้น เขาติดเพื่อนคนนี้มาก ไปเที่ยวกันตลอดแทบทุกคืน ที่ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือเขาติดการพนัน มีบางครั้งที่เขาเล่นเสียเงินจนต้องโทรมาหาแหม่มให้ช่วยเบิกเงินสดในธนาคาร เอาไปให้เขาใช้หนี้ เขาเล่นเสียจนหมดตัวแทบทุกครั้ง แหม่มขอร้องให้เขาเลิกเล่นเพราะเห็นมีแต่เสีย ไม่เห็นเคยได้ซักที วัฒก็รับปากทุกครั้งแต่ไม่เคยรักษาสัญญา ช่วงหลังๆ เขาแทบจะไม่ได้กลับบ้านเลย จนตอนนั้นแหม่มถึงกับระแวงไปว่าเขาจะแอบไปมีผู้หญิงอื่น ตอนนั้นเองที่เสี่ยหาญเริ่มเข้ามาตีสนิทกับแหม่ม เสี่ยหาญสนิทกับแหม่มได้อย่างรวดเร็วก็เพราะหลังจากแต่งงานแหม่มก็ห่างเหินจากเพื่อนๆ อีกทั้งนิสัยส่วนตัวก็เป็นคนเงียบๆ ค่อนข้างเรียบร้อย ไม่ค่อยเที่ยว จึงมีเพื่อนไม่มากอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเสี่ยหาญเข้ามาพูดคุย แหม่มก็มักจะระบายความทุกข์กับเขาและขอให้เขาช่วยพูดเกลี้ยกล่อมให้สามี แหม่มเลิกเล่นการพนัน เพราะแหม่มคิดว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทและเป็นผู้ชายด้วยกัน เขาอาจจะฟังกันมากกว่า เสี่ยหาญก็รับปากว่าจะช่วยพูดให้ ตอนนั้นแหม่มยอมรับเลยว่ารู้สึกดีกับเสี่ยหาญมากๆ แหม่มเหงาเพราะ วัฒไม่ค่อยอยู่บ้านและไม่เอาใจเหมือนแต่ก่อน ก็มีเสี่ยหาญนี่แหละที่คอยเข้ามาพูดคุย จนตอนนั้นแหม่มรู้สึกว่าคงแย่แน่ๆ ถ้าไม่มีเสี่ยหาญมาคอยให้ปรับทุกข์ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเสี่ยหาญนี้แหละที่ทำให้ชีวิตของแหม่มต้องเปลี่ยนแปลงไป อย่างสิ้นเชิง

เรื่องที่เลวร้ายมันเริ่มขึ้นในคืนวันหนึ่ง เมื่อเสี่ยหาญโทรมาบอกกับแหม่มว่า วัฒถูกจับข้อหาค้ายาเสพติด แหม่มตกใจมาก ตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกเลย เป็นไปได้ยังไง แหม่มรู้จักสามีของแหม่มดี ถึงเขาจะเป็นคนชอบเที่ยวและเล่นการพนันแต่ไม่มีทางที่เขาจะคิดสั้นไปค้ายา เด็ดขาด เขาเกลียดมันซะยิ่งกว่าอะไร เมื่อแหม่มรวบรวมสติได้ก็แต่งตัวไปที่โรงพัก เมื่อไปถึงก็ได้พบกับเสี่ยหาญและวัฒอยู่ในห้องเล็กๆ กันไม่กี่คน เสี่ยหาญติดต่อทนายให้ช่วยประกันตัวให้ แต่ตำรวจไม่ให้ประกันตัวเพราะเป็นคดีใหญ่ ตลอดเวลาที่อยู่โรงพักแหม่มแทบจะเป็นลมอยู่ตลอด คืนนั้นเสี่ยหาญต้องมาส่งแหม่มที่บ้าน แหม่มร้องไห้ตลอดเวลาซึ่งเสี่ยหาญก็คอยปลอบ แหม่มขอให้เขาช่วยเพราะแหม่มไม่รู้จักใครเลย เสี่ยหาญก็รับปาก เขาบอกว่าจะพยายามหาทางให้ คืนนั้นทั้งคืนแหม่มนอนไม่หลับเลย คิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องที่เกิดขึ้น

สองสามวันต่อมาดสี่ยหาญก็ โทรมาหาแหม่ม เขาบอกว่ามีช่องทางพอจะช่วยได้แล้ว เสี่ยหาญให้แหม่มไปหาเขาที่คอฟฟี่ซอพแห่งหนึ่ง แหม่มดีใจมากรีบแต่งตัวแล้วขับรถออกไปเลย พอไปถึงเขาก็พาไปนั่งในมุมเงียบๆเพื่อจะได้คุยเป็นการส่วนตัว เสี่ยหาญบอกว่าเขารู้จักผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่มีเส้นสายสามารถช่วยพลิกคดีให้ ได้ แต่ว่ามันเป็นคดีใหญ่ต้องวิ่งเต้นเยอะ และต้องใช้เงินมาก แหม่มรีบบอกว่าเท่าไหร่ก็ยินดีจ่าย ขอให้ช่วยวัฒออกมาได้ก็พอ เสี่ยหาญบอกตัวเลขซึ่งเป็นจำนวนมหาศาลแต่ตอนนั้นแหม่มไม่เสียดายเลย แหม่มยอมเสียเท่าไหร่ก็ได้ขอให้ได้วัฒกลับมาเป็นคนเดิม บอกตามตรงว่าสำหรับแหม่มแล้วไม่ต้องมีทรัพย์สินมีเงินทองมากมาย ขอแค่ให้สามีรักและเอาใจใส่เหมือนตอนแต่งงานใหม่ๆ แหม่มก็มีความสุขมากพอแล้ว

เมื่อดิฉันตกลงยอมจ่ายตามที่เสี่ยหาญเสนอมา เขาก็บอกต่อว่า แต่ว่ามันมีเงื่อนไขอย่างอื่นอีกซึ่งเขาไม่ค่อยอยากพูดเลย เสี่ยหาญทำท่าทางอึกอัก แหม่มก็ร้อนใจบอกว่า บอกมาเถอะ แหม่มยอมทุกอย่างเพื่อให้วัฒได้เป็นอิสระ เสี่ยหาญจึงบอกว่าผู้ใหญ่ท่านนั้น (ซึ่งเสี่ยหาญเรียกว่า ท่านรองประพงษ์ รองผู้บัญชาการ) เคยเห็นแหม่มในงานแห่งหนึ่งเค้าถูกใจแหม่มมาก จึงอยากที่จะช่วยเหลือ แต่เค้าขอให้แหม่มยอมนอนกับเค้าคืนนึง แหม่มตะลึงใจหายวาบ รู้สึกหน้าชาร้อนผ่าวไปหมด นี่มันเกินกว่าที่แหม่มคิดไว้เยอะ แหม่มนิ่งเงียบเพราะทำใจไม่ได้ เสี่ยหาญจึงถามว่าแหม่มจะว่ายังไงเขาจะได้ไปดำเนินการต่อ แหม่มสับสนมืดตื้อ คิดอะไรไม่ออก มันปวดหัวไปหมด เลยบอกกับเขาว่า “แหม่มไม่คิดว่าจะเจอยังงี้ แหม่มขอกลับไปนอนคิดก่อนค่ะ” เสี่ยหาญก็บอกว่าให้กลับไปนอนคิดให้ดี พรุ่งนี้เขาจะโทรมา จากนั้นเสี่ยหาญคงจะเห็นว่าท่าทางของแหม่มดูแย่มากๆ เขาก็เลยถามแหม่มเหมือนเป็นห่วงว่า กลับบ้านเองได้มั๊ย แหม่มรู้ตัวว่าคงขับรถไม่ไหวแน่ๆ เสี่ยหาญจึงบอกว่าจะขับรถไปส่งก็แล้วกัน แล้วค่อยให้แหม่มเรียกคนขับรถ มาขับรถของแหม่มตามกลับไปทีหลัง

แหม่มก็ขอบใจเขา ตลอดเวลาที่เสี่ยหาญขับรถ เขาก็พยายามปลอบโยนแหม่ม แล้วเพยายามพูดทำนองว่าให้แหม่มยอมไปเถอะ บอกว่าแหม่มก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อะไร แล้วมันไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย ก็แค่คืนเดียว แถมยังบอกอีกว่า โทษของวัฒนั้นหนักมาก ถ้าถูกตัดสินว่าผิดก็มีแต่ประหารชีวิตกับจำคุกตลอดชีวิต ตอนนั้นแหม่มสับสนไปหมดฟังอะไรแทบไม่รู้เรื่องเลย คืนนั้นจึงเป็นอีกคืนที่แหม่มนอนแทบไม่หลับคิดถึงแต่เรื่องนั้นตลอดเวลา แหม่มจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีวัฒ เขาเป็นทั้งหมดในชีวิต ในที่สุดแหม่ม ก็ปลงได้ตก ก็จริงอย่างที่เสี่ยหาญว่า แหม่มก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อะไร ตัดใจยอมเขาแค่ครั้งเดียวแต่ได้สามีกลับคืนมา ช่างมันเถอะก็มันไม่มีทางอื่นแล้ว ดังนั้นวันถัดมาเมื่อเสี่ยหาญโทรมาถาม แหม่มจึงบอกตกลง แหม่มรู้สึกว่าเสียงของเสี่ยหาญดูจะตื่นเต้นดีใจจนฟังออก แหม่มเริ่มรู้สึกเอะใจและผิดปกติอย่างบอกไม่ถูก เพราะทุกครั้งเขาจะแสดงความห่วงใยและปลอบใจแหม่มตลอด หรือแหม่มจะฟังผิดคิดไปเอง

เสี่ยหาญบอกว่าให้แหม่มแต่งตัวสวยๆใส่น้ำหอมเยอะๆ เพราะท่านรองประพงษ์ชอบผู้หญิงหอมๆ แหม่มอดสูใจยิ่งนัก น้ำตาไหลพรากลงมาอีกครั้งอย่างกลั้นไม่อยู่ คำพูดของเสียหาญทำให้แหม่มรู้สึกว่าตัวเองเหมือนโสเภณีไม่มีผิด ยิ่งมาเสี่ยหาญก็ยิ่งแปลกไปจากวันแรกที่แหม่มได้รู้จักไปทุกที…แล้ววันนัดหมายก็มาถึงแหม่มแต่งตัวด้วยชุดแส็กสีฟ้าสด แต่งหน้าบางๆ รอเสี่ยหาญมารับ เมื่อมาถึงเขาก็พาแหม่มขึ้นรถแล้วขับออกไปที่ถนนใหญ่ เสี่ยหาญขับรถด้วยตนเอง เขาคงไม่อยากให้คนขับรถรู้ แหม่มนั่งนิ่งเงียบไม่ปริปากไปตลอดทาง แต่ใจเต้นระทึกรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก มือแหม่มเย็นเฉียบและคงจะสั่นระริก จนเสี่ยหาญสังเกตุเห็น เขาเอามือมากุมไว้เป็นเชิงปลอบใจ รถซอกแซกพาแหม่มไปถึงบ้านหลังหนึ่งซึ่งใหญ่มาก บ้านของแหม่มว่าใหญ่แล้วก็ยังดูเล็กไปสนิทใจเมื่อนำมาเทียบกัน บ้านหลังนี้น่าจะเรียกว่าคฤหาสน์ซะมากกว่า

เสี่ยหาญพา แหม่มเข้าไปข้างใน ก็เห็นผู้ชายสามคนยืนรออยู่ คนหนึ่งมีอายุมาก ท่าทางสง่าน่าจะเป็นท่านรองประพงษ์ ส่วนอีกสองคนยังดูหนุ่มแน่น หน้าตาดีทั้งคู่“ท่านรองครับ ผมพาคุณนุสรินท์มาแล้วครับ” เสี่ยหาญทักทายท่านรองประพงษ์ แล้วก็หันมาทางแหม่ม “คุณแหม่ม นี่ท่านรองครับ”
“สวัสดี ค่ะ” แหม่มพนมมือไหว้ท่านอย่างนอบน้อม ถึงอย่างไรแหม่มก็ถูกอบรมณ์มาดีพอที่จะให้ความเคารพต่อผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่าผู้ใหญ่บางคนจะมีพฤติกรรมที่ไม่สมควรได้รับมันแม้แต่น้อย
“สวัสดีจ้ะ หนูแหม่ม หนูสวยจริงๆ ยอมรับเลยว่าสวย” ท่าน พูดพลางจ้องมองมาที่หน้าอกแหม่มอย่างจงใจ แหม่มฝืนยิ้ม ถ้าเป็นสถานการณ์อื่น แหม่มคงเดินหนีไปแล้ว แต่วันนี้แหม่มทำอย่างที่คิดไม่ได้ ท่านรองเห็นแหม่มเงียบเลยพูดต่อ
“เสี่ยหาญ บอกหนูแหม่มแล้วใช่มั๊ยว่าหนูต้องทำอะไร”
“ค่ะ” แหม่มพยักหน้า

แล้ว ท่านรองประพงษ์ก็แนะนำผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ คนแรกดูเหมือนอายุจะน้อยกว่าแหม่มชื่อ เตี้ย เป็นช่างภาพ ส่วนอีกคนที่อายุมากกว่าชื่อ จอน เป็นช่างถ่ายวีดีโอ แหม่มตกใจมาก ทำไมต้องมีช่างภาพ ท่านรองประพงษ์บอกว่าท่านชอบถ่ายผู้หญิงที่ท่านร่วมรักด้วยเก็บไว้ดู และผู้หญิงที่ท่านนอนด้วยทุกคนก็ยอมถ่ายทั้งนั้น ดิแหม่มอ้อนวอนต่อท่านว่า
“ขอแหม่มเป็นกรณีพิเศษได้ไหมคะ แค่นี้แหม่มก็อายจะแย่อยู่แล้ว”

แต่ ท่านรองประพงษ์ไม่ยอม เสี่ยหาญก็เลยพูดกับแหม่มว่าไม่เป็นไรหรอกคุณแหม่ม ท่านเอาไว้ดูเองไม่เอาไปทำอะไร ไม่ต้องกังวล เพราะถ้าภาพถูกเผยแผร่ออกไป ท่านเป็นผู้ใหญ่จะเสียหายกว่าดิแหม่มเสียอีก เพราะพี่สาวท่านเป็นถึงคุณหญิง แหม่มฟังดูก็จริงอยู่ แต่ถึงยังไงแหม่มก็เป็นผู้หญิง การนอนกับผู้ชายโดยมีคนอื่นอยู่ด้วยมันน่าอับอายสิ้นดี แต่ทั้งสองคนก็ช่วยกันพูดแกมบังคับจนแหม่มจำเป็นต้องยอมรับ เพราะถึงยังไงแหม่มก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว แหม่มไม่มีอะไรไปต่อรองเขาได้เลย แหม่มเสียอีกเป็นฝ่ายที่ขอให้เขาช่วย เพราะลำพังแหม่มเองไม่มีทางทำอะไรได้อยู่แล้ว
“ถ้าหนูแหม่มเข้าใจแล้ว ก็เริ่มได้เลย”

ท่านรองประพงษ์ว่าแล้ว ก็ประคองพาแหม่มเช้าไปในห้อง โดยมีเสี่ยหาญและช่างภาพทั้งสองเดินตามเข้ามา เมื่อไปข้างในแหม่มก็มองดูไปรอบๆ เห็นเป็นห้องที่ใหญ่มาก ผนังและพื้นถูกตกแต่งด้วยวัสดุที่หรูหราดูมีราคา แต่ที่น่าแปลกคือทั้งห้องแทบจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆเลย มีเตียงนอนขนาดใหญ่วางอยู่เตียงเดียว และมีโซฟาตัวใหญ่วางอยู่ที่ผนังอีกหนึ่งตัว รอบห้องมีไฟจัดเตรียมไว้อยู่หลายดวง แหม่มนึกในใจว่าคงมีผู้หญิงหลายคนที่โดนแบบแหม่ม ท่านรองประพงษ์ถึงได้ทำห้องไว้สำหรับการนี้โดยเฉพาะ เมื่อเตี้ยกับจอน จัดเตรียมทุกอย่างเสร็จก็ให้สัญญาน ท่านรองประพงษ์ก็เดินประคองกอดพาแหม่มไปที่เตียง พลางกระแซะยื่นหน้ามาซุกไซ้บริเวณคอ แก้มและที่ข้างใบหูของแหม่มแล้ว พึมพำ“หอมจังเลยหนูแหม่ม คนสวยของผม หนูสวยเหลือเกินรู้ตัวมั๊ย”
………………………………..
ท่าน รองประพงษ์ซุกไซร้ไปทั่วใบหน้าของแหม่ม แต่เป็นเพราะอะไรไม่ทราบ ตอนนั้นแหม่มไม่รู้สึกมีอารมณ์ตามแม้แต่น้อย สักพักท่านก็ถอนใบหน้าออก แล้วสิ่งที่แหม่มกังวลก็มาถึง
“ช่วยผมหน่อยซิหนูแหม่ม… ใช้ปากทำให้ผมหน่อย” แหม่ม หน้าเผือดลง ถึงแม้จะเคยแต่งงานแล้ว แต่สามีรักและถนอมแหม่มมาก ไม่เคยเลยซักครั้งที่เขาจะขอให้แหม่มทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ รวมถึงการใช้ปากนี่ด้วย แม้เขาจะเคยขอแหม่มอยู่ครั้งหนึ่ง แต่แหม่มปฏิเสธเขาก็ไม่เคยเอ่ยปากอีกเลย เราร่วมรักกันแบบธรรมดาเท่านั้น

แหม่ม หันไปมองเสี่ยหาญเป็นเชิงให้เขาช่วย แต่เสี่ยหาญกลับพยักหน้าให้แหม่มตามใจท่านรองประพงษ์ ท่าทางเขาตื่นเต้นด้วยซ้ำ เมื่อเสี่ยหาญไม่ยอมช่วยแหม่มเลยหันมาบอกกับท่านว่าแหม่มทำไม่ค่อยเป็น ท่านรองประพงษ์เลยบอกว่าไม่เป็นไรท่านจะสอนให้ ท่านรองกดแหม่มลงให้คุกเข่าอยู่ต่อหน้า แหม่มใจเต้นแรง รู้สึกว่ามือสั่นเลยตอนที่ท่านรองปลดเข็มขัดของท่าน แหม่มรูดซิบออก ปล่อยให้กางเกงร่วงลงไปกรอมอยู่ที่เท้า กางเกงในของท่านนูนพองออกมาอย่างน่ากลัว แหม่มนิ่งเฉยๆอยู่พักใหญ่ๆ ท่านรองประพงษ์ต้องเร่งให้แหม่มทำต่อ แหม่มเลยรูดกางเกงในลง ของท่านก็ผงาดออกมาเกือบชนหน้าแหม่ม ลักษณะของมันดูเหมือนจะยังไม่ตื่นตัวเต็มที่นัก แต่ถึงกระนั้นมันก็มีขนาดใหญ่กว่าของวัฒมาก แหม่มค่อยๆ กุมมันไว้รู้สึกถึงความร้อนผ่าวของมันแหม่มหน้าซีดเผือด กลิ่นของมันรุนแรงมากจนแหม่มรู้สึกคลื่นไส้วิงเวียน แหม่มเงยหน้าขึ้นมองท่านอย่างวิงวอน แต่ท่านรองประพงษ์กลับพยักเพยิดหน้าเป็นเชิงให้แหม่มทำต่อ
“เอาซิหนูแหม่ม เอาเข้าปากของหนูเลย”
แหม่มนิ่งอยู่ชั่วครู่ก็หลับหูหลับตากลั้นใจก่อนจะจับมันเข้าไปในปาก
ทันที ที่มันเข้าไป แหม่มก็รู้สึกคลื่นไส้ เหม็นคาวแบบสุดๆ แหม่มอ้วกแตกตรงนั้นเลย มันเปื้อนไปหมดทั้งของท่านและที่พื้น ท่านรองประพงษ์อุทานออกมา ช่างภาพทั้งสองคนตกใจ แต่เสี่ยหาญตวาด ออกมาอย่างอารมณ์เสีย
“ห่ะเอ๊ย ทำอะไรเนี่ยคุณแหม่ม ท่านเปื้อนหมดแล้ว”
แต่แหม่มกลับเป็นท่านรองที่ห้ามปรามเขา
“ อย่า เสี่ยหาญ อย่าดุหนูแหม่มอย่างนั้น”
แหม่มร้องไห้รีบขอโทษท่าน ท่านรองแหม่มพงษ์เองก็ตกใจที่เห็นแหม่มร้องไห้ ก็ปลอบโยนแหม่ม
“ไม่ เป็นไร หนูแหม่ม ทำใจให้สบาย เดื๋ยวเราไปล้างกันก่อน “ แล้วท่านรองก็พาแหม่มเข้าห้องน้ำ ให้แหม่มช่วยทำความสะอาดให้ แล้วท่านก็ออกไปก่อน ส่วนแหม่มท่านให้ล้างหน้าแปรงฟันใหม่ แหม่มมองหน้าตัวเองที่กระจก สีหน้าเผือดขาวดูแย่มากๆ
“วัฒ วัฒรู้ไหมว่าเพราะวัฒ แหม่มต้องทำถึงขนาดนี้ แต่เพื่อวัฒแล้วแหม่มทำได้ทุกอย่าง …คอยก่อนนะที่รัก แหม่มจะช่วยให้คุณออกมา..”

แหม่ม ยืนทำใจในห้องน้ำอยู่ซักพักก็เดินออกมา ตอนนั้นเสี่ยหาญเรียกสาวใช้เข้ามาทำความสะอาด เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็ต้องเริ่มต้นกันใหม่ คราวนี้ท่านรองประพงษ์ไม่ได้บังคับให้แหม่มอมให้ท่านแล้ว
ท่านรองประพงษ์พาแหม่มมานั่งที่เตียงมือข้างซ้ายโอบไปที่ด้านหลังแหม่ม แล้วก็ดึงแหม่มเข้ามา เขาซุกไซ้ไปที่พวงแก้มและซอกคอ จับหน้าแหม่มหันไปทางเขาแล้วบดขยี้ปากริมฝีปากแหม่มอย่างงรุนแรงไม่นุ่มนวล เหมือนในตอนแรก แล้วเขาก็สอดลิ้นเข้ามาในปากควานเลียไปทั่ว ก่อนที่จะดูดลิ้นแหม่ม จากนั้นก็พรมจูบไปทั่วหน้าของแหม่มอีก เขาครางกระเส่าอยู่ตลอดเวลา สักพักเขาก็ผลักแหม่มหงายหลังลง ตลบกระโปรงชุดแส็กของแหม่มขึ้นไปบนหน้าท้อง แล้วจับแหม่มแยกขาออก แหม่มลืมตาขึ้นมาก็เสียววูบ หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเพราะเห็น นัยน์ตาของท่านรองประพงษ์เบิกกว้างจ้องเขม็งมาที่เป้ากางเกงในของแหม่ม มือข้างหนึ่งของเขาจับขาข้างซ้ายแหม่มให้งอเข่ากางไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งลูบไล้ไปมาที่ร่องตรงกางเกงใน มือของเขาลูบคลำคลึงเคล้นไปมากจนพอใจ แล้วก็ย้ายไปจับขาอีกข้างของแหม่มให้ถ่างออกไปอจากกันมากขึ้น พร้อมกับเขยิบตัวขึ้นมามองหน้า แหม่มรีบหลับตาเพราะรู้สึกอายอย่างที่สุด

ท่านรองประพงษ์ลูบไล้ไปมาตามลำขาอย่างแผ่วเบา แหม่มก็รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันทีเสร็จแล้วท่านรองแหม่มพงษ์ก็เอื้อม มือมาใช้นิ้วเกี่ยวรูดเสื้อของแหม่มลง นัยน์ตาจ้องเขม็งมาที่ร่องอกอวบอิ่มของแหม่มที่โผล่ออกมาจากยกทรงผ้าลูกไม้ สีชมพู“ขาวเหลือเกิน หนูแหม่ม”ท่านรองประพงษ์พึมพำเสียงกระเส่า มือของเขาลูบไล้ไปมาที่เนินอก และร่องนมก่อนจะขยำอย่างรุนแรงไปทั้งสองเต้าจนแหม่มรู้สึกเจ็บ เขาก้มลงโลมเลียไปทั่วเนินเนื้ออวบอูมที่อยู่เหนือยกทรง ลิ้นควานสอดไปมาตามร่องอก ไม่มีส่วนไหนของแหม่มจะหลุดพ้นลิ้นของเขาไปได้เลย แม้กระทั่งหัวไหล่และใต้วงแขน แหม่มขนลุกซู่อยู่ตลอดเวลา

แล้วท่านรองประพงษ์ก็ดึงยกทรงลงมาปล่อยให้ทรวงอกของแหม่มออกมาสั่นกระเพื่อมเพราะแหม่มใจเต้นแรงมากนิ้วของท่านรองประพงษ์ลูบไล้ไปมาที่หัวนม ก่อนที่จะบีบบี้หัวนมของแหม่มอย่างสนุกสนาน แหม่มหลับตาด้วยความอายตลอดเวลา

“ อย่าหลับตาซิจ๊ะหนูแหม่ม ผมอยากให้หนูมองผมทำ …ที่รัก”แหม่มจำเป็นต้องปรือตามองแม้ว่าจะรู้สึกอายมาก ๆ ตอนแรกเขาใช้มือข้างเดียวบีบบี้หัวนมข้างซ้ายของแหม่ม แต่คงจะไม่หนำใจ เพราะสักพักเขาก็ใช้มืออีกข้างบี้หัวนมทั้งสองข้างของแหม่มพร้อมๆกัน เขาบี้ไปมาอย่างเมามันส์ แล้วก็ก้มลงมาใช้ปากขบกัดเบาๆ อยู่ที่หัวนม ท่านรองประพงษ์โลมเลียไปทั่วดูเขาเอร็ดอร่อยเหลือเกินเพราะส่งเสียงครวญ คราง พึมพำตลอดเวลา ในขณะที่ปากเค้าวนอยู่กับหัวนมข้างหนึ่ง มืออีกข้างของเขาก็บีบบี้ขยำเต้าอีกข้างของแหม่มอย่างรุนแรง แหม่มต้องกัดฟันเพื่อไม่ให้เผลอร้องครางออกมา เขาบี้อยู่อย่างนั้นสักพัก มือของเขาก็ไต่ลงไปอยู่ที่กางเกงในของแหม่ม

ท่าน รองประพงษ์ฉีกถุงน่องของแหม่มจนขาด นิ้วมือของเขาแหวกลงไปแล้วฉีกกระชากเป้ากางเกงในของแหม่มจนเป็นรูโหว่ตรงของ สงวน ระหว่างนั้นจอนก็ยื่นกล้องวีดีโอลงมาจนใกล้เนินนูน แหม่มหน้าชาร้อนวูบวาบเลยค่ะไม่รู้ว่าทำไมต้องมาถ่ายใกล้ขนาดนั้น ท่านรองลูบไล้ไปมาตรงเป้า แหม่มขนลุกซู่ไม่ยอมหยุดเลย แถมเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาแล้วด้วย แต่ก็พยายามกลั้นไว้อย่างเต็มกลืนไม่ส่งเสียงร้องคราง แหม่มลืมตามองแล้วก็ต้องหลับตาปี๋อีกครั้งเมื่อเห็นนัยน์ตาของท่านรองประพงษ์จ้องเขม็งมาที่ของสงวนของแหม่ม

“โอ ของหนู…สวยเหลือเกินหนูแหม่มจ๋า ไม่น่าเชื่อเลยว่าหนูจะมีผัวแล้ว นี่ถ้าบอกว่าบริสุทธิ์นี่ผมเชื่อเลยนะ ” เขาพึมพำ แหวกกลีบออก แล้วก้มหน้าสอดลิ้นเข้ามาทันที
“อุ๊ย อย่าค่ะท่าน น่าเกลียด” แหม่มร้องห้าม
“ …น่าเกลียดอะไรกันหนูแหม่ม….อืมม…ซี๊ดดด.. ผัวหนูไม่เคยบอกเลยรึไงว่า ของหนูทั้งหอม…ทั้งหวาน…ซี๊ด…อร่อยเหลือเกิน”

ท่าน รองประพงษ์พึมพำใช้ลิ้นเลียควานไปควานมา ดูดดื่มน้ำของแหม่มไม่ยอมหยุด จนแหม่มรู้สึกเสียวซ่านอย่างที่สุด เขาทั้งเลียทั้งควานทั้งดูดจนของแหม่มมันแฉะไปหมด จากนั้นก็เปลี่ยนขึ้นมานั่งบนเตียงประกบอยู่ที่ด้านหลังของแหม่ม จับแหม่มให้นั่งชันเข่าเอนหลังไปพิงอกของเขา แหกขาของแหม่มให้ถ่างออกไปอีกทั้งๆ ที่มันถ่างมากอยู่แล้ว มือล้วงเข้าไปในกางเกงใน สอดนิ้วเข้าไปเขี่ยจุดเสียวของแหม่ม มืออีกข้างก็บีบขยำนมของแหม่มอย่างรุนแรง เขาทั้งล้วงทั้งขยำเขี่ยไปเขี่ยมา สติของแหม่มกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว

แหม่ม ยอมรับเลยว่าท่านรองคงจะชำนาญเรื่องนี้เหลือเกินเพราะไม่นานท่านรองก็จับแหม่ม เปลี่ยนท่าอีก คราวนี้ท่านรองถอดชุดแส็กของแหม่มดึงพรวดเดียวออกไปทางหัว แล้วจับแหม่มไปนั่งอยู่ในท่าคลานคุกเข่าหันด้านข้างไปทางเขา เขาปลดตะขอยกทรงแล้วดึงออก ตอนนี้ท่อนบนของแหม่มเปลือยเปล่าเขาลูบคลำเต้านม ขยำ คลึง เคล้นอย่างมันส์มือ แล้วค่อยๆ ลูบไล้ลงไปเรื่อยๆ จนถึงก้นแล้วก็ตีก้นแหม่มอย่างแรงจนแหม่มร้อง เท่านั้นยังไม่พอ เขารวบกางในของแหม่มให้เป็นเส้น จับดึงรูดไปรูดมาให้เสียดสีกับร่องแคมของแหม่ม บางครั้งก็ดึงขึ้นอย่างรุนแรงจนแหม่มเจ็บจนต้องแอ่นก้นขึ้นตาม เขาดึงรูดไปรูดมาแรงขึ้นเรื่อยๆ จนแหม่มทั้งแสบทั้งร้อนทั้งเสียวววว…โอ….แหม่มยอมรับเลยค่ะว่าตอนนั้นแหม่มเสียวสุดๆ จนทนไม่ไหวแล้ว แขนอ่อนแรงจนยันพื้นไม่อยู่ต้องทรุดหน้าลงไปบนเตียง ในขณะที่ก้นยังแอ่นขึ้นส่วนท่านรองก็รูดไม่ยอมหยุดเสียที แหม่มต้องยอมแพ้ ร้องครางออกมาในที่สุด
“อูยยย…หยุ ..หยุด …เถอะค่ะ ..หนูเสียววววว…อย่า ทรมาน…หนูเลย .. อูยยย…ใจจะขาดอยู่แล้ว ท่านขา..”
“เสียวแล้วหรือ หนูแหม่ม …นี่เพิ่งเริ่มเท่านั้นนะ …เดี๋ยวผมจะทำให้หนูเสียวยิ่งกว่านี้อีก”
………………………………..
แหม่ม ฟุบหน้าอยู่กับที่นอน สักพักก็รู้สึกว่าท่านรองหยุดทำเอาดื้อๆ ปล่อยร่างของแหม่มให้ทรุดลงบนที่นอนอย่างหมดเรี่ยวแรง ได้ยินเสียงท่านพูด
“อะไรกันเสี่ยหาญ เข้ามาขัดทำไม คนกำลังมันส์อยู่เลย”
“อูยย….ผมเสียวจนไม่ไหวแล้วครับท่านรองประพงษ์ ขอให้ผมทำคุณแหม่มบ้างเถอะ”
แหม่มรู้สึกอื้ออึงหันขวับไปมองเสี่ยหาญอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เขาพูดอะไรออกมา!
“เอ… ก็ผมกำลังทำอยู่ เสี่ยจะให้ผมล้างชามหรือไง” เสียงท่านรองประพงษ์หงุดหงิด
“ผมเสียวรอไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมทำไม่นานหรอก หรือไม่ก็ทำพร้อมกันเลย ให้เธอใช้ปากกับผมก็ได้
ส่วนท่านรองประพงษ์ก็เล่นหม้อเธอไป”
“ไม่ ไม่ดีกว่า …ผมไม่ชอบรุม …สงสารหนูแหม่ม ..แล้วผมก็ปล่อยให้เสี่ยทำกับปากเธอไม่ได้ เดี๋ยวเธออ้วกออกมาก็เสียอารมณ์กันอีก เอาอย่างงี้ละกัน ผมให้เวลาเสี่ยห้านาที เสี่ยเล่นร่องนมหนูปาก็แล้วกัน ตกลงมั๊ย ผมพักเหนื่อยซักหน่อยก็ดีเหมือนกัน ”

เสี่ยหาญพยักหน้าเป็นชิงตกลง ท่านรองประพงษ์จึงยอมถอยออกไปนั่งพักตรงโซฟา เสี่ยหาญดีใจจนออกนอกหน้า เขาดึงแหม่มให้มานั่งตรงขอบเตียง แล้วถอดกางเกงออกไปอย่างรวดเร็วจนท่อนล่างเปลือยเปล่า ของเค้าชี้เด่มาที่หน้า แหม่มเงยหน้ามองเค้าอย่างเจ็บปวดและเจ็บใจอย่างที่สุด เขาเป็นเพื่อนที่วัฒและแหม่มรักและไว้ใจที่สุด แต่ในยามที่แหม่มเป็นทุกข์ เขากลับซ้ำเติมแหม่มอย่างน่าละอาย แหม่มจ้องหน้าเขาด้วยความเกลียดชัง ความเคียดแค้นคงระบายออกมาทางนัยน์ตาจนเขารับรู้ “เห็นใจผมเถอะคุณแหม่ม ช่วยผมหน่อย ผมทนไม่ไหวจริงๆ อย่าโกรธผมเลย”

แหม่ม หลับตา รู้สึกอ่อนล้าไปหมดทั้งใจกาย

ชาติ ชั่ว ผู้ชายชั่ว! สารเลวที่สุด! แหม่มร่ำร้องด่าเขาอยู่ในใจ เขาจับหัวแหม่มเข้าไปหา แหม่มรู้ว่าไม่มีทางปฏิเสธ เขาเอาของเขาถูไปมาที่พวงแก้ม มือก็จับหัวแหม่มไว้ เสี่ยหาญส่ายเอวไปมาปล่อยให้ของเขาถูไถไปมาที่หน้า แหม่มรู้สึกขยะแขยง แต่เสี่ยหาญกลับร้องอย่างมีความสุข

“อูย .. ผมอยากทำอย่างนี้กับคุณมานานแล้ว รู้มั๊ย คุณแหม่ม..อูยยย คุณสวยบาดใจผมเหลือเกิน”

เสี่ยหาญบดบี้ของเขาไปทั่ว ทั้งแก้ม หน้าผาก ปากจมูกของแหม่ม ของเขาฉ่ำเยิ้มจนแหม่มได้กลิ่นคาว เสี่ยหาญก็ผลักแหม่มลงไปนอนที่เตียง แล้วก็เอาของเขาถูไปมากับร่างกายของแหม่มอีก ไล่เรื่อยลงมาตั้งแต่ที่ ใบหน้า ที่คอ ไหล่ แม้ที่ใต้วงแขนเค้าก็จับสอดลงไปดุนๆดันๆอยู่สี่ห้าครั้ง ก็ย้ายไปถูที่ร่องอก เขาจับเต้านมของแหม่มบีบเข้าหากัน แล้วสอดเข้ามา ความคิดเดียวในตอนนั้นของแหม่มก็คืออยากจะให้มันจบไปเร็วๆ แต่เสี่ยหาญทำได้ไม่นาน อยู่ๆ ท่านรองประพงษ์ก็มาดึงเสี่ยหาญออก “พอก่อนเสี่ย ผมทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เสี่ยไปรอต่อผม หรือถ้ารอไม่ไหวก็ชักว่าวเองก็ละกัน”

ต้องยอมพลีกายเพื่อช่วยชายคนรัก ตอนที่ 2

ท่าน รองประพงษ์ผลักแหม่มลงไปบนโซฟาเขาถอดกางเกงในแหม่มออก แหม่มรู้สึกหน้าร้อนวูบด้วยความอับอายเมื่อเห็นเขาก้มลงไปดูด้านล่างของ แหม่ม แหม่มต้องปล่อยให้เขาจ้องมองดูทุกอย่างด้วยความอัปยศ อด สู๋ ไม่มีทางหลบ… ไม่มีทางเลี่ยง …เขาดูจนพอใจแล้วจึงลุกขึ้นใช้เข่าดันขาของแหม่มให้แยกออกแล้วจ่อของเขา เข้ามา แหม่มเหลือบตาก้มลงมองก็ใจหายวูบรู้สึกกลัวมากๆ กลัวจริงๆ… เพราะสัดส่วนของเขานั้นใหญ่กว่าของวัฒมากมาย… แล้วนี่แหม่มจะทนได้หรือ แหม่มเงยหน้ามองเขาแล้ววิงวอนเสียงสั่น

“เบาๆ ก่อนนะคะ แหม่มกลัว”

ท่าน รองประพงษ์ยิ้มดูเหมือนเขาจะชอบใจเหลือเกินที่เห็นแหม่มกลัวเขามากมาย ขนาดนี้ เนื้อตัวแหม่มสั่นเทาไปหมดขณะที่เขาเอื้อมมือมาปัดผมของแหม่มที่หลุดลุ่ย สยายลงมาปิดหน้าของแหม่มออกเพื่อจะมองหน้าแหม่มให้ชัดๆ แล้วหันไปสั่งจอน

“ถ่ายหน้าหนูแหม่มไว้นะจอน ซูมเข้ามาชัดๆ”

เขา สั่งแล้วหันกลับมาจับขาของแหม่มให้แยกถ่างออกไป แล้วค่อยๆ สอดเข้ามาทีละนิด แหม่มกัดฟันกรอด มือจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น ความรู้สึกเสียวซ่านที่เพิ่งเกิดขึ้นหายไปหมดสิ้นเหลือแต่เพียงความรู้สึก เจ็บ เพราะมันคับแน่นและพองโตขึ้นเรื่อยๆ จนของแหม่มแทบจะปริฉีกออกอยู่แล้ว… ถึงแม้เขาจะพยายามดันมาทีละนิดๆ แต่ความใหญ่โตของมันก็ทำให้แหม่มเจ็บปวดที่สุดในชีวิต ท่านรองดูจะสงสารแหม่มบ้างอยู่เหมือนกัน จึงพูดปลอบใจ

“ทนหน่อยนะหนูแหม่ม เดี๋ยวก็มันส์”

เขา ปลอบด้วยเสียงนุ่มนวล แต่แหม่มไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างที่เขาบอกเลย มีแต่ความเจ็บปวดจนน้ำตาไหลพราก พูดอะไรไม่ออก แหม่มรู้ตัวเลยว่าไม่มีทางจะทนได้แน่ ความรู้สึกเดียวที่มีก็คือ อยากจะให้เขาเอาออก

“โอยยย..ท่านคะ……เอาออกเถอะ แหม่มไม่ไหวจริงๆ…ท่านคะ..ท่านคะ..สงสารแหม่มเถอะ…อย่า.อย่า….”

แหม่ม อ้อนวอนเสียงสั่นแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันยากที่จะยับยั้งเขาไว้ได้ ท่านรองประพงษ์ไม่สนใจแม้แต่จะฟัง เขากลับหัวเราะออกมาอย่างพอใจด้วยซ้ำที่เห็นแหม่มร่ำไห้คร่ำครวญ

ท่าน รองประพงษ์ค่อยๆ ดันเข้ามาจนสุด แล้วค่อยๆ โยกเข้าออกช้าๆ สักพักเมื่อความชื่นฉ่ำเริ่มมีมากขึ้น แหม่มจึงรู้สึกว่าความเจ็บได้เริ่มบรรเทาลงไปบ้าง

“อูยยย….ฟิต…ฟิตเหลือเกิน ของหนูแหม่มนี่เยี่ยมจริงๆ อูยยย”

เสียง ท่านรองประพงษ์พึมพำ มือของเขาประทับลงบนเนื้อหนังของแหม่ม อุ้งมือหยาบหนาขยำลงบนเต้าทรวง พร้อมกับกระแทกแรงขึ้นเร็วขึ้น ปากก็ร้องครางพึมพำอยู่ตลอดเวลา เขาสนุกสะใจในขณะที่แหม่มเจ็บปวดแทบตาย เขาทำท่านั้นอยู่สักพักก็ดึงแหม่มขึ้นมาจับพลิกให้ยืนเกาะโซฟา แล้วสอดเข้ามาข้างในตัวแหม่มจากทางด้านหลัง แล้วขยับเข้าออกอย่างรวดเร็วอีกครั้ง มือทั้งสองข้างของเขาเอื้อมสอดเข้ามาบีบขยำทรวงอกของแหม่มอย่างรุนแรง พร้อมกับครวญครางด้วยความสุข…. แต่แหม่มไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับเขาเลย มันมีแต่ความเจ็บปวด.. เจ็บปวดไปทุกกล้ามเนื้อส่วนนั้น ยากจะให้มันจบสิ้นซักที… แต่เขาก็อึดเหลือเกิน… น่ากลัวเหลือเกิน

แหม่มตัวอ่อนเรี่ยวแรง สูญหายไปจนหมดสิ้น ขาเปลี้ย ตัวสั่นเทาจนยืนแทบไม่ติดพื้นอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่มีทีท่าจะหยุดลงเลย ท่านรองผลักแหม่มลงไปนอนกับเตียงแล้วตัวของเขาก็โถมน้ำหนังตัวทั้งหมดทาบทับ ตามลงมาที่ร่างของแหม่ม เขาจับไหล่ทั้งสองข้างของแหม่มไว้ แล้วก็สอดเข้ามาใหม่ และเริ่มโยกเข้าออกอีกครั้งอย่างรุนแรง แหม่มร้องครางลั่นด้วยความเจ็บปวด มันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ “โอ๊ยยย..ท่านคะ..เบาๆ…แหม่มเจ็บนะ..โอ๊ยยย”

ยิ่ง แหม่มร้องดังเท่าไหร่ ก็ยิ่งเร้าอารมณ์ให้ เขาพลุ่งพล่านยิ่งขึ้น หน้าของเขาก้มลงตะโบมลงบนเนื้อนวลกลางทรวงอกของแหม่ม อ้าปากจนกว้างเหมือนจะกลืนกินเข้าไปให้หมด แหม่มจิกเล็บลงไปบนศีรษะเขาอย่างลืมตัวจนเขาร้อง อยากจะกระชากหัวเขาให้ลุกขึ้น แต่ก็ไม่กล้าขัดใจเขา ฟันของเขางับลงมาบนยอดทรวงของแหม่ม แหม่มร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ดิ้นพล่านจนหมดแรง

ขณะที่เขาก้มก้มหน้าก้มตาตะกรุมตะกรามอยู่กับ ทรวงอกของแหม่มนั้น มืออีกข้างของเขาก็สอดเข้าไปใต้ก้น เพื่อยกร่างแหม่มให้แนบหาร่างของเขา แหม่มดิ้นรนกระเสือกกระสน แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งช่วยให้เขาพึงพอใจยิงขึ้น เขาจับแหม่มงอเข่าแล้วถ่างออก กระแทกถี่เร็วอย่างเมามันส์

หน้าท้องของแหม่มหดตัวอย่างขยะแขยงโดย สัญชาตญาณ เมื่อรับรู้สัมผัสจากมือเขา สะอิดสะเอียนเหลือที่จะกล่าว พยายามใช้มือผลักไสอยู่ตรงเอวและชายโครงของเขาไม่ให้โถมเข้ามาแรงๆ แต่พละกำลังของเขามีมากเกินกว่าที่แรงผลักไสของแหม่มจะต้านทานได้ การโถมกระแทกอย่างรุนแรงเป็นเวลานานทำให้แหม่มรู้สึกชาด้านไปหมดทุกส่วนของ ร่างกาย ทรวงอกแทบจะแหลกเหลวไปกับการบดขยี้ที่ไร้ความปราณีของเขา ทุกวินาทีคือความทรมานซึ่งมันก็ผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสียเหลือเกิน…. แหม่มมารู้ว่าเขาใกล้จะถึงจุดสุดท้ายของความพอใจก็เมื่อได้ยินเสียงเขาร้อง

“อูยย มันส์.. มันส์จริงๆ หนูแหม่ม ของหนูฟิตแน่นไปหมดเลย …อูย…ผมไม่ไหวแล้ว… ผมจะออกแล้ว”……………………………………..